MEGA Series

|
NEW
ให้เฮดรูมที่สูงกว่า
ราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับกำลัง
กำลังวัตต์สูง เชื่อถือได้
Hard clip สำหรับ Bass
Soft clip สำหรับ Mid-Hi
มีปุ่มลิมิตเตอร์ลดกำลัง
ควบคุมกรวยลำโพงได้ดีกว่า
ตัด intermodulation ที่ซ่อนอยู่
มีรุ่นเพื่อ 2 โอห์มและ 4 โอห์ม
|
เพาเวอร์แอมป์ TAFN MEGA SERIES เป็นเพาเวอร์แอมป์กลุ่มกำลังวัตต์สูงในตลาด ได้รับการออกแบบเพื่อให้ทำงานได้อย่างต่อเนื่องและเชื่อถือได้ มีลิมิตเตอร์ในตัวที่แยกการทำงานตามย่านความถี่ โดย Soft Limiter ทำงานในช่วงย่านความถี่กลางแหลม (Mid-Hi) และ Hard Limiter ทำงานในช่วงย่านความถี่ต่ำ (Bass) ลิมิตเตอร์สามารถปรับกำลังวัตต์ต่ำลงเพื่อรองรับลำโพงที่มีกำลังวัตต์น้อยกว่า แต่ทว่ายังคงเฮดรูมที่สูงเท่าเดิม
MEGA 9002 ออกแบบเพื่อโหลด 2 โอห์มโดยเฉพาะ ให้กำลังขับสูงที่สุดในตลาดเพาเวอร์แอมป์ที่ขับ 2 โอห์ม และยังสามารถโหลด 2 โอห์มได้ต่อเนื่อง
MEGA 9004 ออกแบบเพื่อโหลด 4 โอห์ม แต่ให้เฮดรูมสูงมากกว่าหรือกำลังวัตต์ต่อลำโพงที่สูงกว่า และยังสามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่องและเชื่อถือได้
MEGA SERIES เพาเวอร์แอมป์คุณภาพสูง ที่มาพร้อมระบบการป้องกันที่สมบูรณ์ ในราคาและกำลังวัตต์ที่เพาเวอร์แอมป์ทั่วไปในตลาดไม่สามารถให้ได้ MEGA SERIES เป็นเพาเวอร์แอมป์ที่ให้ทั้งความแข็งแรง เชื่อถือได้ คุณภาพเสียงที่ดี และอายุการใช้งานที่ยาวนาน
|

|
เลือกเพาเวอร์แอมป์ที่เหมาะสำหรับคุณ
MEGA SERIES มีเพาเวอร์แอมป์กำลังวัตต์สูง 2 รุ่น ให้ลูกค้าได้เลือกใช้ ระหว่างรุ่น MEGA 9002 สำหรับการโหลดโอห์มต่ำโดยเฉพาะ ใช้ขับลำโพง 4 ดอกต่อแชนแนล (2 โอห์ม) และรุ่น MEGA 9004 ใช้ขับลำโพง 2 ดอกต่อแชนแนล (4 โอห์ม) แต่ให้เฮดรูมสูงมากกว่าหรือกำลังวัตต์ต่อลำโพงที่สูงกว่า (ดูกราฟด้านล่างประกอบ)

MEGA 9002 ออกแบบมาเพื่อการจ่ายกระแสสูงมาก สามารถขับลำโพง 4 ดอกต่อแชนแนล (2 โอห์ม) ในกำลังวัตต์สูง โดยจ่ายกระแสสูงสุดได้ถึง 80 แอมป์ โดยที่เฮดรูมยังคงสูงอยู่ ไม่มีแอมป์ตัวใดในตลาดที่สามารถทำงานเต็มสมรรถนะได้อย่างต่อเนื่องแบบนี้ ในกรณีขับย่านกลาง-แหลม สามารถขับได้โดยไม่มีการคลิป ที่ 4,600 วัตต์ RMS ต่อแชนแนล หรือ 1,150 วัตต์ต่อดอก ในกรณีขับย่านเบส เมื่อเกิดการ Hard-Clipping ยังคงให้กำลังวัตต์สูงถึง 5,800 วัตต์ RMS ต่อแชนแนล หรือ 1,400 วัตต์ต่อดอก
MEGA 9004 ออกแบบมาเพื่อขับลำโพง 2 ดอกต่อแชนแนล (4 โอห์ม) แต่ทว่าให้เฮดรูมที่สูงกว่ามากและยังให้กำลังวัตต์ต่อดอกที่สูงกว่า ในกรณีขับย่านกลาง-แหลม สามารถขับได้โดยไม่มีการคลิป ที่ 4,000 วัตต์ RMS ต่อแชนแนล หรือ 2,000 วัตต์ต่อดอก ในกรณีขับย่านเบส เมื่อเกิดการ Hard-Clipping ยังคงให้กำลังวัตต์สูงถึง 5,500 วัตต์ RMS ต่อแชนแนล หรือ 2,750 วัตต์ต่อดอก
ควบคุมกรวยลำโพงเต็มประสิทธิภาพ
MEGA SERIES และเพาเวอร์แอมป์ของ TAFN ทุกรุ่น มีวงจรพิเศษที่ใช้ควบคุมกรวยลำโพงอย่างแม่นยำ ผลที่ได้เสียงมีความชัดเจน เคลียร์ เพาเวอร์แอมป์ของเราจะจับกรวยลำโพงด้วยไฟฟ้าตลอดเวลาในทุกๆช่วงของคลื่นความถี่ เพื่อควบคุมกรวยลำโพงอย่างแม่นยำที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ดังนั้นเสียงที่ออกมาจึงสมจริงที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ข้อมูลเพิ่มเติม
ลิมิตเตอร์ที่เหมาะสมสำหรับย่านความถี่ที่เหมาะสม
ลิมิตเตอร์ในเพาเวอร์แอมป์ MEGA SERIES มีระดับแตกต่างกัน ระหว่างย่านความถี่กลางแหลมและย่านความถี่ต่ำ โดย Soft Limiter จะทำงานในย่านความถี่กลางแหลม (Mid-High) และ Hard Limiter จะทำงานในช่วงย่านความถี่ต่ำ (Bass) และในช่วงย่านความถี่ต่ำกลาง (Low-Mid) ระบบลิมิตเตอร์จะค่อยๆปรับเปลี่ยนระดับลิมิตเตอร์จาก Soft Limiter ไปยัง Hard Limiter ได้อย่างราบเรียบ
MEGA SERIES มีระดับ Soft Limiter ในย่านความถี่ 300 Hz. ขึ้นไป (Mid-High) และมีระดับ Hard Limiter ในย่านความถี่ต่ำกว่า 90 Hz. (Bass) โดย Hard Limiter จะปรับเพิ่มกำลังวัตต์ขึ้นอีกประมาณ 30% หลังจากการคลิปไปแล้ว ซึ่งจะให้ลูกกระแทกมากที่สุด โดยที่เรายังไม่รู้สึกถึงการคลิปของเสียง
ความถี่ระหว่าง 90 Hz. ถึง 300 Hz. ซึ่งเป็นช่วงย่านความถี่ต่ำกลาง (Low-Mid) จะมีการเปลี่ยนแปลงระดับลิมิตเตอร์ระหว่าง Soft Limiter ไปยัง Hard Limiter ค่อยเป็นค่อยไป
|

|
ถ้าตั้งลิมิตเตอร์ในระดับ Low Power ในย่านเสียงความถี่ต่ำ (Bass) จะอยู่ที่จุดคลิปพอดี และย่านเสียงความถี่กลางแหลม (Mid-High) เพาเวอร์แอมป์จะลดระดับการขยายกำลังลง 40% แต่ในกรณีนี้การทำงานของเครื่องจะเปรียบเสมือนการทำงานในแบบ Soft Limiter ทั้งย่าน แต่ทว่ายังคงความแตกต่างระหว่างเสียงย่านความถี่กลางแหลม (Mid-High) และเสียงย่านความถี่ต่ำ (Bass)
สวิตช์ลิมิตเตอร์เพื่อลดกำลัง

|
เพราะ MEGA SERIES มีกำลังขับสูงมาก เราจึงออกแบบระบบ Low Power Limiter ขึ้นมา เพื่อให้สามารถใช้งานเพาเวอร์แอมป์กับหลายๆสถานการณ์ที่ต้องใช้ลำโพงกำลังวัตต์น้อยลงได้ แต่ทว่ายังคงเต็มเฮดรูมของเพาเวอร์แอมป์ ระบบ Low Power Limiter จะลดกำลังของ RMS ลง แต่ D.C. Voltage ของเพาเวอร์ซัพพลายยังเท่าเดิม เพื่อให้ยังคงเฮดรูมสูงอยู่เช่นเดิม
อธิบายอีกแบบหนึ่ง คือ มีการจำกัดพลังงานเฉลี่ยที่ไปสู่ลำโพง แต่ไม่ได้ลดกำลังสูงสุดในระยะสั้นๆ ซึ่งจะไม่เป็นอันตรายต่อลำโพง ทำให้ลำโพงปลอดภัยขึ้น โดยที่ยังคงให้กำลังพีคสูงสุดอยู่ เสียงจึงยังชัดเจน สะอาด มีพลัง ในระดับเท่าที่เป็นไปได้
ลิมิตเตอร์มีการหน่วงเวลาในการตอบสนอง เพื่อที่จะปล่อยกำลังขับสูงในระยะเวลาสั้นๆ แต่ยังคงเสียงที่ชัดเจน เคลียร์ และให้เฮดรูมสูงสุดเท่าที่เพาเวอร์แอมป์จะให้ได้ ในขณะที่ใช้กำลังเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 60%
ในขณะใช้ระบบ Limit Low Power ระดับของกำลังจะถูกจำกัดให้ต่ำกว่าช่วงเฮดรูมของเพาเวอร์แอมป์มาก ซึ่งจะทำให้เกิดช่องว่างระหว่างระดับลิมิตเตอร์ถึงเพดานเสียงสูงสุดของเพาเวอร์แอมป์ เพราะฉะนั้นเวลามีพีคสูงๆในช่วงหน่วงเวลาของลิมิตเตอร์ โอกาสที่จะเกิดการคลิปมีน้อยมาก ผลที่ได้เสียงจึงใส สะอาด และเคลียร์ ซึ่งเป็นเสียงย่านความถี่กลางแหลม (Mid-High) ที่ใครๆก็ต้องการ
การใช้ระบบ Limit Low Power จะทำให้ Gain ของเพาเวอร์แอมป์ลดลงตามกำลัง เพื่อรักษาความไวที่ 0.775 โวลต์ จึงเปรียบได้กับการใช้เพาเวอร์แอมป์อีกรุ่นที่กำลังวัตต์ต่ำลง แต่เพดานเสียงยังสูงเท่าเดิม
|
ระบบป้องกันที่ทันสมัยที่สุด
MEGA SERIES มีระบบการป้องกันที่ทันสมัยครบถ้วน ปกป้องเพาเวอร์แอมป์จากปัญหา high-frequency oscillation ไฟฟ้าลัดวงจร ไฟ DC รั่วที่ลำโพง ความร้อนที่สูงเกินไป เราพยายามออกแบบระบบป้องกันความเสี่ยงต่างๆที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา และ MEGA SERIES ยังมีระบบ soft turn-on ที่จะค่อยๆป้อนกระแสให้กับเพาเวอร์แอมป์ ไม่ดึงกระแสหนักตอนเปิดเครื่อง ช่วยแก้ปัญหาไฟกระชาก ทำให้ผู้ใช้สามารถเปิดเพาเวอร์แอมป์หลายๆตัวพร้อมกันด้วยสวิตซ์ควบคุมหลักเพียงตัวเดียว
ในกรณีที่เพาเวอร์แอมป์อุณหภูมิสูงถึง 80 องศา เพาเวอร์แอมป์จะหยุดการทำงาน แต่ทว่าก่อนจะถึงจุดนี้ อุณหภูมิที่ 70 องศา เพาเวอร์แอมป์จะลดกำลังลงส่วนหนึ่ง โดยที่ยังไม่หยุดการทำงาน เพื่อให้โอกาสอุณหภูมิของเพาเวอร์แอมป์เย็นลง เมื่ออุณหภูมิลดลงจนกลับสู่สภาวะปกติ กำลังของเพาเวอร์แอมป์จะกลับมาสู่สภาวะปกติเช่นกัน ระบบนี้จะทำให้โอกาสที่เครื่องจะหยุดการทำงานเนื่องจากอุณหภูมิสูงถึง 80 องศา เป็นไปได้ยากมาก จึงทำให้คุณมั่นใจได้ว่างานจะไม่เสียหายจากการตัดการทำงานของเครื่องที่เกิดจากความร้อน


MEGA 9002 คือ เพาเวอร์แอมป์ดิจิตอลที่ประสบความสำเร็จมากที่สามารถให้กำลังขับสูงแต่กลับมีน้ำหนักเบา เพาเวอร์แอมป์ที่ให้เสียงได้ดีเยี่ยมชัดเจนและใช้งานได้ต่อเนื่องเหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการใช้ลำโพงจำนวนมาก (2 โอห์ม) แต่ทว่ายังคงเฮดรูมและกำลังวัตต์ต่อดอกที่สูงอยู่ ถือได้ว่าเป็นเพาเวอร์แอมป์ที่มีกำลังวัตต์มากที่สุดในตลาดเพาเวอร์แอมป์ของไทยเมื่อใช้งานโหลดที่ 2 โอห์ม
|
กำลังขับสูงมากในขนาด 2U
แดมปิ้งเฟคเตอร์สูงแม้จะเกิดการคลิปไปแล้ว
เฮดรูมคงที่ในทุกการโหลดใช้งาน (2-16 โอห์ม)
ป้องกันการลัดวงจรอย่างสมบูรณ์
ช่องเชื่อมต่อ Neutrik
ปรับระดับ Hard และ Soft limiter ตามความถี่
ถึงไฟ AC ตก เครื่องก็ยังทำงานเต็มที่
|

Specifications
Sensitivity for full rated power
|
0.775 Volts RMS
|
Frequency Response
|
20 Hz to 20 KHz
|
Signal to Noise ratio 20 Hz to 20 KHz
|
More than 105 dB
|
Total Harmonic Distortion (THD)
|
0.1%
|
Intermodulation Distortion (IMD)
|
0.05%
|
Damping Factor
|
1000 From 20 Hz to 1KHz.
|
Load Impedance
|
Designed for 2 ohms load and all types of loads
|
Overload and short-circuit protection system
|
Current limited controlled by ACC at 90A per CH.
|
Overheat protection system
|
Cut-off at internal 85 Deg. Resume at 65 Deg.
|
Power Supply protection
|
Soft start - Against all severe voltage fluctuations
|
AC Input Voltage without affecting max. Output Power
|
180 V - 240 Volts AC. (when loading 2 ohms)
|
Dimensions W x D x H
|
480 x 385 x 66 mm (2U. 19" Rack mount )
|
Weight
|
14 Kg.
|
Power Specifications

รับประกันกำลังที่ได้โดยที่ไม่คลิป ในย่าน Mid-High
LOAD (BOTH CH DRIVEN)
|
FULL POWER
|
LIMIT LOW POWER
|
Output power stereo mode at 8 ohm (stereo)
|
1400 + 1400 Watts RMS
|
850 + 850 Watts RMS
|
Output power stereo mode at 4 ohm (stereo)
|
2700 + 2700 Watts RMS
|
1600 + 1600 Watts RMS
|
Output power stereo mode at 2.66 ohm (stereo)
|
3800 + 3800 Watts RMS
|
2250 + 2250 Watts RMS
|
Output power stereo mode at 2 ohm (stereo)
|
4600 + 4600 Watts RMS
|
2850 + 2850 Watts RMS
|
Output power bridged mode at 16 ohm (mono)
|
2800 Watts RMS
|
1700 Watts RMS
|
Output power bridged mode at 8 ohm (mono)
|
5400 Watts RMS
|
3200 Watts RMS
|
Output power bridged mode at 4 ohm (mono)
|
9200 Watts RMS
|
5700 Watts RMS
|
กำลังสูงสุดหลังจากคลิปไปแล้ว ในย่าน BASS เท่านั้น
LOAD (BOTH CH DRIVEN)
|
FULL POWER
|
LIMIT LOW POWER
|
Output power stereo mode at 8 ohm (stereo)
|
1900 + 1900 Watts RMS
|
1400 + 1400 Watts RMS
|
Output power stereo mode at 4 ohm (stereo)
|
3700 + 3700 Watts RMS
|
2700 + 2700 Watts RMS
|
Output power stereo mode at 2.66 ohm (stereo)
|
4500 + 4500 Watts RMS
|
3900 + 3900 Watts RMS
|
Output power stereo mode at 2 ohm (stereo)
|
5800 + 5800 Watts RMS
|
5000 + 5000 Watts RMS
|
Output power bridged mode at 16 ohm (mono)
|
3800 Watts RMS
|
2800 Watts RMS
|
Output power bridged mode at 8 ohm (mono)
|
7400 Watts RMS
|
5400 Watts RMS
|
Output power bridged mode at 4 ohm (mono)
|
11400 Watts RMS
|
10000 Watts RMS
|
Specifications subject to change without prior notice.